หลาย ๆ คน คงจะทราบ เกี่ยวกับระบบไฮดรอลิค กันบ้างแล้ว แล้วระบบนี้ ใช้อะไรเป็นแรงในการขับเคลื่อนนะ ? ระบบไฮดรอลิค จะต้องใช้น้ำมัน ประเภทเดียวกันกับระบบ เพื่อที่ขับเคลื่อนระบบ ให้ทำงานได้ แน่นอนว่า จะต้องเป็น น้ำมันไฮดรอลิค นั่นเอง ซึ่งเป็นน้ำมันที่ใช้กับแรงดันสูง ๆ เพื่อส่งถ่ายกำลัง จากของไหล ไปเป็นกำลังงาน โดยถ่ายทอดพลังงาน จากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง เพื่อ ให้ระบบสามารถขับเคลื่อนได้
โดยที่คุณภาพของน้ำมัน เปลี่ยนแปลงได้น้อย ที่อุณหภูมิสูง ๆ และ ถูกใช้อย่างแพร่หลาย ในอุตสาหกรรม และยานยนต์ เพื่อเป็นตัวช่วย ในการหล่อลื่น ช่วยในการเคลื่อนไหว ของอุปกรณ์ ชิ้นส่วนในระบบ ให้สามารถเคลื่อนที่ได้ อย่างคล่องตัว ลดแรงเสียดทาน ของชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่สัมผัสกัน ทั้งยังระบายความร้อน ที่เกิดขึ้น จากการไหลเวียน ของน้ำมันไฮดรอลิค ทำให้ถ่ายเทความร้อน ออกจากระบบได้อีกด้วย
ทั้งนี้ น้ำมันไฮดรอลิค ยังเป็นซีล เพื่อป้องกันการรั่วซึม ภายในให้เกิดน้อยเมื่อมีความดันเกิดขึ้นในระบบ
จะเห็นได้ว่า น้ำมันไฮดรอลิก มีความสำคัญต่อระบบ ดังนั้น ในการใช้จึงต้องเลือก ให้เหมาะสม และถูกประเภท โดยจะต้องมีคุณสมบัติ ที่เหมาะสม ต่อการใช้งาน เพื่อให้น้ำมันไฮดรอลิก ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะต้องมีการทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ของน้ำมันด้วย มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย
- น้ำมันไฮดรอลิกจะต้องมีค่าความหนืด ( viscosity ) ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน
- มีจุดข้นแข็ง หรือจุดไหลเทที่อุณหภูมิต่ำ จะต้องมีการทดสอบ ด้วยเครื่องทดสอบ หาจุดไหลเท ( Pour point analyzer )
- มีคุณสมบัติ ของการหล่อลื่น ( Lubricity ) ที่ดี ไม่กัดกร่อน หรือ ทำปฏิกิริยากับยาง ซีล ปะเก็น และ สี
- ไม่ทำให้เกิดสนิม หรือต้านทานการเกิดสนิม
- ต้านทาน การเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ( oxidation stability )
- ต้านทาน การเกิดฟอง มีความสามารถ ในการอัดตัวต่ำ ไม่จับตัวเป็นก้อน หรือยางเหนียว
- มีความสามารถในการแยกตัวกับน้ำได้ดี
การเลือกใช้น้ำมันไฮดรอลิคให้เหมาะสมนั้น จะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าเลือกได้ถูกต้อง??
เนื่องจาก น้ำมันไฮดรอลิคมีอยู่หลายชนิด และ ทำงานแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ลักษณะของการทำงาน เรามาทำความรู้จักกับชนิดของน้ำมันไอดรอลิคกัน เพื่อที่จะนำไปพิจารณา ว่าควรเลือกแบบไหน ใช้กับสภาพแวดล้อมแบบใด ทำงานกับน้ำ ความชื้น ทนไฟ หรือทนแรงดันอย่างไร ซึ่งเพื่อจะได้เลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง
- น้ำมันปิโตรเลียม
น้ำมันไอดรอลิคชนิดนี้ สามารถหล่อลื่นได้ดีมาก ต้านทานการสึกกร่อน ต้านทานการเกิดสนิม ต้านทานการเกิดสนิมได้ดี และมีความหนืดสูงซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวซีลได้ดีมาก เป็นน้ำมันชนิดที่นิยมใช้กัน มีคุณสมบัติ ที่กำหนดความแตกต่างของน้ำมันไว้ ซึ่งได้แก่ ชนิดของน้ำมันดิบ วิธีการ ระดับการกลั่น และ สารประกอบที่ใช้ แต่น้ำมันชนิดนี้ ก็มีข้อเสีย คือ ติดไฟง่าย หากในสภาพแวดล้อมที่ความร้อนสูง ไม่ค่อยทนความร้อน ดังนั้น จึงไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้ไฟ เพราะอาจจะเกิดข้อผิดพลาด เช่น ท่อรั่ว อาจทำให้ติดไฟได้ ยกตัวอย่าง น้ำมันปิโตรเลียมชนิดนี้ เช่น
- น้ำมันไฮดรอลิคทั่วไป (hydraulic AW)
- น้ำมันเทอร์ไบน์
- น้ำมันไฮดรอลิคชนิดพิเศษ (hydraulic HVI)
- น้ำมันเครื่องเบอร์ SAE 10W หรือ SAE 30
น้ำมันชนิดนี้ ใช้กับระบบไฮดรอลิค ที่ทำงานที่อุณหภูมิสูง ๆ โดยเฉพาะ หรือใช้กับสภาพแวดล้อมที่ติดไฟได้ง่าย ที่อาจจะเกิดได้จากไอระเหยของน้ำมัน หรือน้ำมันรั่วไหล สัมผัสกับอุปกรณ์ที่มีความร้อน หรือมีคราบน้ำมันที่ผิวอุปกรณ์ที่ร้อน เป็นต้น
ดังนั้น น้ำมันไฮดรอลิก สามารถแบ่งออกป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ น้ำมันปิโตรเลียม และ น้ำมันทนไฟ ซึ่งชนิดน้ำมันปิโตรเลียม จะเหมาะกับการใช้งานกับระบบไฮดรอลิคทั่วไป ส่วน ชนิดน้ำมันทนไฟ ใช้กับระบบไอดรอลิคที่อุณหภูมิสูง ๆ หรือ สภาพที่อาจจะเกิดการรั่ว หรือน้ำมันระเหยได้