น้ำมันแร่ (Mineral Oil) คือสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ (Crude Oil) โดยผ่านกระบวนการกรองและบำบัดเพื่อให้ได้ของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส น้ำมันแร่ที่ถูกกลั่นอย่างดีมักมีความบริสุทธิ์สูงจนสามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว อาหาร และยาได้อย่างปลอดภัย
น้ำมันแร่มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านการป้องกันการระเหยของความชื้น ช่วยหล่อลื่นได้ดี และไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันง่าย จึงได้รับความนิยมในหลากหลายวงการ ตั้งแต่อุตสาหกรรมความงามไปจนถึงอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล

น้ำมันแร่มีอยู่ในอะไรบ้าง?
แม้จะดูเหมือนเป็นส่วนผสมที่ “ใช้ในงานอุตสาหกรรม” แต่น้ำมันแร่กลับถูกใช้อย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน เช่น
- ในเครื่องสำอาง: โลชั่น, ลิปบาล์ม, ครีมทามือ และครีมทารอบดวงตา
- ในยา: ยาระบาย, ครีมทาผิว, ยาทารักษาอาการผิวแห้ง
- ในอาหาร: สารเคลือบผิวผลไม้ เช่น แอปเปิล, ลูกแพร์ และเป็นตัวหล่อลื่นในสายการผลิตอาหาร
- ในอุตสาหกรรม: น้ำมันหล่อลื่นเครื่องจักร, น้ำมันเบรก, และน้ำมันกันสนิม
น้ำมันแร่ปลอดภัยจริงหรือ?
น้ำมันแร่สามารถแบ่งออกได้หลายเกรด ขึ้นอยู่กับการกลั่นและการใช้งาน โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น
- เกรดอุตสาหกรรม: ใช้ในเครื่องจักร ไม่ปลอดภัยต่อการบริโภคหรือสัมผัสผิวหนังโดยตรง
- เกรดเภสัชกรรม (Pharmaceutical Grade): ผ่านการกลั่นหลายขั้นตอน มีความบริสุทธิ์สูง ใช้ในเครื่องสำอาง ยา และอาหาร
องค์กรอย่าง FDA (สหรัฐอเมริกา) และ EFSA (ยุโรป) ต่างอนุญาตให้ใช้น้ำมันแร่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้หากอยู่ภายใต้เกณฑ์ที่ปลอดภัย แต่ก็มีข้อกังวลในบางแง่มุม เช่น ความเสี่ยงของสารตกค้างอย่าง MOAH (Mineral Oil Aromatic Hydrocarbons) ที่อาจสะสมในร่างกายหรือส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวหากบริโภคต่อเนื่องในปริมาณมาก
สรุป
น้ำมันแร่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสมัยใหม่มากกว่าที่หลายคนคิด ทั้งในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย อาหาร และอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและต้นทุนที่ไม่สูงนักจึงทำให้มันถูกใช้อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้น้ำมันแร่ควรพิจารณาที่แหล่งที่มา เกรดของผลิตภัณฑ์ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม